วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

หัวจ่ายอากาศ มีกี่ประเภท

 หัวจ่ายอากาศ มีกี่ประเภท 



หัวจ่ายอากาศ เป็นอุปกรณ์ที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ในงานที่ต้องการเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้มีเพียงพอต่อการใช้งาน แต่ทราบกันหรือไม่ว่า อุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้มีเพียงประเภทเดียวนะ แต่มีถึง 2ประเภทด้วยกัน ในบทความนี้ มีคำตอบ   

หัวจ่ายอากาศ มีถึง 2 ประเภท ได้แก่

1.หัวจ่ายอากาศแบบจานจ่ายอากาศ

2.หัวจ่ายอากาศแบบท่อหรือแบบแท่ง

แล้วถ้าหากต้องเลือกนำมาใช้งาน ต้องเลือกแบบไหนล่ะ 

เราก็ต้องดูว่าที่หน้างานมีลักษณะการใช้งานเป็นอย่างไร หากหน้างานของเราเป็นพื้นที่งานอุตสาหกรรม ที่มีพื้นที่จำกัด ก็จะเหมาะกับหัวจ่ายอากาศแบบท่อ แต่หากจะนำมาใช้กับงานในลักษณะบ่อเลี้ยงปลาคาร์ฟ หรืองานในบ่อบำบัดน้ำเสีย

และนอกจากจะทราบถึงประเภทของหัวจ่ายอากาศแล้ว คุณภาพของตัวอุปกรณ์ก็มีความสำคัญ ในการตัดสินใจเลือกซื้อมาใช้งาน ในบทความนี้ ขอแนะนำ หากต้องการนำมาใช้กับงานน้ำเสีย หรือ งานเติมอากาศในบ่อเลี้ยงปลา แนะนำ จานจ่ายอากาศ SANCO ที่ให้เลือกถึง ถึง 2 รุ่น ทั้งรุ่น FA (จานจ่ายอากาศแบบไม่มีขอบ) และ รุ่น FD (จานจ่ายอากาศแบบมีขอบ) ตัวเมมเบรนผลิตด้วยวัสดุ EDPM เกรดดีเพิ่มการยืดหยุ่น ไม่ฉีกขาดง่าย มาพร้อมคุณสมบัติ สามารถผลิตฟองอากาศได้ถึง 8,500 รูต่อ cm2 ได้ฟองที่ละเอียดกระจายได้ทั่วแผ่น

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ระหว่างริงโบลเวอร์ กับ รูทโบลเวอร์ แตกต่างกันอย่างไรนะ

 ระหว่างริงโบลเวอร์ กับ รูทโบลเวอร์ แตกต่างกันอย่างไรนะ



ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ ริงโบลเวอร์ หรือ รูทโบลเวอร์ ต่างก็เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับการนำมาใช้ ดูดเป่า-อากาศด้วยกันทั้งคู่ แล้วข้อแตกต่างคืออะไร ในบทความนี้มีคำตอบค่ะ


ทั้ง ริงโบลเวอร์ และรูทโบลเวอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการสร้างแรงดันลม ในลักษณะของงานเติมอากาศ แต่ข้อแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ

1.มีระบบการทำงานของตัวเครื่องที่แตกต่างกัน คือ ในอุปกรณ์ริงโบลเวอร์ จะเป็นระบบการทำงานขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ต่อตรง แต่ในอุปกรณ์รูทโบลเวอร์ จะเป็นระบบการทำงานขับเคลื่อนด้วยสายพาน

2. ในขณะที่ตัวรูทโบลเวอร์ ต้องมีการหล่อลื่นด้วยน้ำมันถึงจะสามารถใช้งานได้อย่างปกติ แต่สำหรับริงโบลเวอร์ ไม่จำเป็นต้องมีน้ำหล่อลื่น

3. ค่า Air flow ของอุปกรณ์รูทโบลเวอร์จะสามารถทำได้มากกว่า ริงโบลเวอร์ 

4. ความดันสูงสุดของ รูทโบลเวอร์ อยู่ที่ 10,000 mmAq ในขณะที่ความดันสูงสุดของริงโบลเวอร์ อยู่ที่ 7,500 mmAq

แต่หากถามว่า อุปกรณ์ไหน จะเหมาะกับหน้างานแบบไหนบ้าง ถ้าเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับโรงงานอุตสาหกรรม กระดาษ แป้ง อาหารสัตว์น้ำตาล พลาสติก หรืองานระบบบำบัดน้ำเสีย จะเหมาะใช้กับ รูทโบลเวอร์ แต่หากนำไปใช้กับงาน งานอุตสาหกรรม ที่มีการอบแห้ง งานลำเลียงวัสดุด้วยลม ใช้เติมอากาศบ่อปลา และบ่อกุ้ง จะเหมาะกับตัวที่เป็น ริงโบลเวอร์


หากสนใจสินค้า รูทโบลเวอร์ และริงโบลเวอร์ สามารถเข้ามาดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

หรือหากต้องการติดต่อสั่งซื้อสินค้า

Line 📲 Line : https://lin.ee/ywrcGb1

วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ค่า (pH) ที่เหมาะสม สำหรับการเลี้ยงปลาคาร์ฟ

 ค่า (pH) ที่เหมาะสม สำหรับการเลี้ยงปลาคาร์ฟ




การเลี้ยงปลาคาร์ฟอาจจะไม่ใช่เรื่องยากถ้าใจรัก แต่การที่จะเลี้ยงปลาคาร์ฟ ให้เจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรง และสวยงามนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หากเรามองข้ามปัจจัยข้อหนึ่งไป ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในเรื่องของคุณภาพที่ดีในการเลี้ยงปลา ดังนั้นในบทความนี้ จะมาขอแบ่งปันเรื่องราวดีดี เกี่ยวกับ ค่า (pH) ที่เหมาะสม ในการเลี้ยงปลาคาร์ฟ มาฝากกันค่ะ

มีค่า pH ของน้ำที่ดี เท่ากับ มีคุณภาพของน้ำที่ดีในการเลี้ยงปลาคาร์ฟ ซึ่งค่า pH ที่เหมาะสมในการเลี้ยงปลา ควรอยู่ในอยู่ในช่วง 6.5-8.5 เพราะหากค่าต่ำกว่ามาตรฐานที่ระบุไว้ อาจะทำให้ปลาคาร์ฟ มีอาการตัวแดง (เส้นเลือดขึ้นตามตัว) ตัวสากและตายุบ ทำให้ปลาเกิดการเจ็บป่วย รวมไปถึงตายได้

และนอกจากค่า pH ของน้ำแล้ว ค่า pHของแบคทีเรียในบ่อก็มีความสำคัญเช่นกัน ควรมีค่าอยู่ในช่วง 7.0-7.7 เพราะถ้าค่า pH ต่ำกว่า 7 จะทำให้น้ำมีค่าเป็นกรด และเกิดการสร้างตะไคร่น้ำที่มากเกินไป ก็อาจส่งผลทำให้น้ำเกิดความสกปรก มีผลต่อการหายใจของปลาด้วยเช่นกัน

และอีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ของการเลี้ยงปลาคาร์ฟ หรือการเลี้ยงสัตว์น่้ำ ก็คือ การมีค่าออกซิเจนที่เพียงพอ หากเรามี เครื่องเติมอากาศบ่อปลา ที่มีคุณภาพ ก็ทำให้หมดห่วงเรื่องนี้ไปได้เลย

หากสนใจสินค้า เครื่องเติมอากาศ HIBLOW HP Series สามารถเข้ามาดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

https://shorturl.asia/TiQGJ

หรือหากต้องการติดต่อสั่งซื้อสินค้า

Line 📲 Line : https://lin.ee/ywrcGb1

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2565

เลือกเครื่องเติมอากาศสำหรับเติมออกซิเจนในบ่อปลา ต้องเลือกยังไงนะ

 เลือกเครื่องเติมอากาศสำหรับเติมออกซิเจนในบ่อปลา ต้องเลือกยังไงนะ 

เครื่องเติมอากาศบ่อปลา


หากเราต้องเลือกเครื่องเติมอากาศบ่อปลา ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงปลาไว้เพื่อความสวยงาม หรือ ฟาร์มอนุบาลสัตว์น้ำ จะต้องเลือกอย่างไร  เพื่อให้เรานั้น ได้ใช้เครื่องเติมอากาศที่มีความเหมาะสมต่อการเติมออกซิเจนในบ่อเลี้ยงปลา ในบทความนี้ มีเทคนิคดีดีมาฝากค่ะ

เทคนิคการเลือก เครื่องเติมอากาศบ่อเลี้ยงปลา มีอยู่ว่า

การเลือกเครื่องเติมอากาศในงานบ่อเลี้ยงปลา โดยส่วนใหญ่จะนิยมเลือกใช้ เครื่องเติมอากาศประเภทบนผิวน้ำ ที่เรียกว่า แอร์ปั๊ม (Air blower) เป็นเครื่องเติมอากาศขนาดเล็กกะทัดรัด แต่พลังแรงลมในการเติมอากาศ สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมประหยัดพลังงาน กินไฟน้อย และข้อสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย คือนอกจากประเภทที่เราต้องเลือกใช้ ก็คือต้องดูเรื่องของ ปริมาณลม และขนาดความลึกของบ่อที่ตัวเครื่องเติมอากาศเครื่องนั้นสามารถทำได้ เหมาะกับหน้างานที่เราจะนำไปติดตั้งหรือไม่ ด้วย

และก่อนจากกันไป หากยังไม่แบรนด์ของเครื่องเติมอากาศที่สนใจ ในบทความนี้ ขอแนะนำเครื่องเติมอากาศของแบรนด์ “HIBLOW” HP Series เครื่องเติมอากาศแอร์ปั๊ม คุณภาพดี แบรนด์ชั้นนำ จากประเทศญี่ปุ่น มีให้เลือกหลายรุ่น ตั้งแต่ รุ่น 40 ลิตร/นาที ไปจนถึง 200 ลิตร/นาที มาพร้อมด้วยคุณสมบัติที่ครบเครื่อง ทั้งแรงลมคงที่ กินไฟน้อย มีระบบป้องกันไฟตก ไฟกระชาก (เป็นระบบ Safety screw ที่มีตั้งแต่ 60 ลิตร ขึ้นไป ) แบรนด์ที่ผู้เลี้ยงปลานิยมใช้งานเติมอากาศ


หากสนใจสินค้า เครื่องเติมอากาศ HIBLOW HP Series สามารถเข้ามาดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

https://shorturl.asia/TiQGJ

หรือหากต้องการติดต่อสั่งซื้อสินค้า

Line 📲 Line : https://lin.ee/ywrcGb1


วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2565

รู้หรือไม่ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อปั๊ม ต้องรู้อะไรบ้าง

 รู้หรือไม่ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อปั๊ม ต้องรู้อะไรบ้าง




เพราะปั๊มลมที่มีขายในปัจจุบันตามท้องตลาด ต่างก็มีมากมายหลากรูปแบบ จะทำอย่างไร ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการสั่งซื้อ และสามารถเลือกมาใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ที่เราต้องการตั้งแต่แรก ดังนั้นในวันนี้จึงอยาก หยิบยกเรื่องราวดีดี ในการเลือกซื้อ "ปั๊มลม" มาฝากกัน


มาทำความรู้จักปั๊มลมแต่ละแบบกันก่อน

ปั๊มลม หรือ เครื่องอัดอากาศ (AIR COMPRESSOR) รูปแบบที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายอยู่ตอนนี้

มีอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ

1. ปั๊มลมแบบสายพาน - เป็นปั๊มลมแบบหัวปั๊มและมอเตอร์จะแยกออกจากกัน โดยมีระบบการขับเคลื่อนแบบสายพาน

2. ปั๊มลมแบบโรตารี่ - เป็นปั๊มลมแบบมอเตอร์ขับตรงกับลูกสูบ

3. ปั๊มลมแบบออยล์ฟรี -เป็นปั๊มลมแบบไร้น้ำมันในการขับเคลื่อน


แล้วงานแบบนี้ ต้องเลือก ปั๊มลมรูปแบบใด

- หากนำไปใช้กับงานในโรงงานอุตสาหกรรมโดยทั่วไป สามารถเลือกเป็นปั๊มลมแบบสายพาน เพราะปั๊มลมประเภทนี้ มีความแข็งแกร่ง ถึกทน และสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

- หากนำไปใช้กับหน้างาน ที่เป็นงานซ่อมที่ต้องการมีการเคลื่อนย้าย แนะนำเป็นตัวปั๊มลมแบบโรตารี่จะสะดวกกว่า เพราะขนย้ายได้ง่าย ทำลมได้ไว และเป็นยังที่ยอดนิยมในหมู่ช่างอีกด้วย

- และหากเป็นงานที่ค่อนข้างกังวลเรื่อง กลัวจะมีการปนเปื้อนของน้ำมัน หรืองานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหาร แนะนำให้ใช้แบบออยล์ฟรีจะดีที่สุด

หากสนใจสินค้า หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

📲 Line : https://lin.ee/6OEmUu3

หรือเข้ามาดูสินค้าที่เกี่ยวข้อง 

💻 https://shorturl.asia/F82mK



วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2565

เลือกปั๊มลมอย่างไร ให้เหมาะใช้กับงานทันตกรรม

 เลือกปั๊มลมอย่างไร ให้เหมาะใช้กับงานทันตกรรม






เพื่อให้งานทางด้านการทำทันตกรรม เป็นไปอย่างราบรื่น  บรรลุข้อวัตถุประสงค์ และ เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ  เราก็ควรมีวิธีการเลือกปั๊มลม ให้เหมาะสมกับหน้างานจริงๆ เพื่อจะได้มาต้องมาเสียดายเวลา หรือ การลงทุนที่สูญเปล่า ในบทความนี้ มีวิธีการดีดีมาฝากค่ะ แล้วจะมีวิธีอะไรบ้างนั้น ตามมาอ่านกันได้เลย


ปั๊มลมกับงานทันตกรรม

ในงานนี้ อุปกรณ์ที่เรียกกันว่า ปั๊มลม มีความเกี่ยวข้องยังไงนะ ทำไมถึงต้องใช้ปั๊มลมในงานทันตกรรม

ต้องเรียกได้ว่า เกี่ยวข้องในหลายๆเรื่องเลย ไม่ว่าจะเป็น

- การทำหัตถการ อย่าง การถอนฟัน

- การดูดน้ำลาย เมื่อคนไข้มาขูดหินปูน หรือต้องการพิมพ์ฟันเพื่อใช้ในการดัดฟัน

จะเรียกได้ว่าบนเตียงทำฟัน ใช้ปั๊มลมเป็นอุปกรณ์ทำฟันเกือบจะทุกอย่างเลย เพื่อให้งานใช้เวลาที่เร็วขึ้น 

คนไข้จะได้ไม่พะอืดพะอมในระหว่างการทำฟัน

แล้วเลือกอย่างไร ให้เหมาะสมกับกับทำการทันตกรรม

1.ต้องดูว่า ระบบการติดตั้งยูนิตทำฟันแบบไหน เพราะระบบการติดตั้งมีข้อแตกต่างกันอยู่ คือ บางระบบจำเป็นต้องใช้ลมในการดูดน้ำลาย หรือที่เรียกว่า Air Suction ซึ่งระบบนี้ต้องใช้ ปั๊มลม ในการขับเคลื่อน ตั้งแต่ 2แรงม้า ส่วนอีกหนึ่งระบบคือ Mortor Suction คือที่ไม่มีการใช้ลมเพื่อการดูดน้ำลาย

2. กำลังแรงม้าของปั๊มลม ต้องเลือกใช้ตามระบบ Suction ที่เลือกใช้

-  Mortor Suction กำลังแรงม้าต้อง 1 HP ต่อยูนิตทำฟัน 1 ตัว

-   Air Suction กำลังแรงม้าต้อง 2 HP ต่อยูนิตทำฟัน 1 ตัว

3. รูปแบบการติดตั้ง โดยปกติหากเป็นการติดตั้งในคลินิก อาจจะใช้ปั๊มลมเพียงไม่กี่ตัวในการติดตั้ง แต่หากเป็นรูปแบบโรงพยาบาลแล้วล่ะก็ ก็ต้องเลือกตัวปั๊มที่มีกำลังแรงม้าที่สูงถึง 10 HP และต้องมีการติดตั้งถังลม Air Dryer และ Air Filter ครบทั้งระบบ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2565

สงสัยกันไหม ระบบไฮดรอลิก และระบบ นิวเมติกส์ต่างกันอย่างไร

สงสัยกันไหม ระบบไฮดรอลิก และระบบ นิวเมติกส์ต่างกันอย่างไร 




สองระบบนี้ ที่ดูเหมือนว่ามีหลักการที่คล้ายกัน แต่ความจริงแล้ว มีข้อแตกต่างกันอยู่นะ แล้วต่างกันตรงไหน และทั้งสองระบบนี้มีควาามเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอะไรบ้าง ในบทความนี้ จะพาไปไขข้อสงสัยเรื่องนี้กันค่ะ
 
หลักการทำงาน ระบบไฮดรอลิก ระบบนิวเมติกส์ 
เป็นลักษณะการทำงาน แบบการโอนถ่ายพลังงานของของไหลชนิดเดียวกัน ในรูปแบบของอัตราการไหลและความดันเปลี่ยนเป็นพลังงานกลเพื่อสร้างกำลังหรือแรง เพื่อให้การทำง่นของระบบสามารถขับเคลื่อยนได้ เพียงแต่ว่าทั้งสองระบบนี้ จะใช้ตัวแปรที่แตกต่างกัน ในการสร้างอัตราการไหล โดยตัวระบบ ไฮโดรลิก จะเป็นการใช้เหลวที่มีแรงดันในการสร้างกำลังการทำงาน เช่น น้ำและน้ำมันเครื่อง หรือ น้ำมันปิโตรเลียม ในขณะที่ ระบบ นิวเมติกส์ จะใช้เป็นลม หรือการอัดอากาศ เพื่อสร้างสร้างแรงดันเพื่อให้ระบบขับเคลื่อนได้

ความแตกต่างอื่นๆของสองระบบ 

ระบบไฮดรอลิก

ระบบนิวเมติกส์

การออกแบบระบบ : ระบบปิด

แรงดันการใช้งานอยู่ที่ 100psi

ระบบการทำงานเป็นระบบใหญ่และซับซ้อน

ความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้ เพราะสามารถใช้กับน้ำมันได้

การออกแบบระบบ : ระบบเปิด

แรงดันการใช้งานอยู่ที่  500-5000 psi

ระบบการทำงานเรียบง่าย ราคาถูก และประหยัด

ไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้


ระบบไฮดรอลิก ระบบนิวเมติกส์เหมาะกับงานอุตสาหกรรมอะไรบ้าง 

ระบบไฮดรอลิก เป็นระบบที่เหมาะกับนำมาใช้กับอุตสาหกรรม ที่เกี่ยวข้องกับการยก ดูดอัด หรือตัดชิ้นงาน เช่น อุตสาหกรรมเหล็ก และอลูมิเนียม อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม อุตสาหกรรมน้ำตาล อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมยาง อุตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรมพลาสติก อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมสิ่งทอ ระบบนี้จะมีอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอยู่ ได้แก่ ปั๊มเฟืองหรือเกียร์ปั๊ม ซึ่งเป็นปั๊มที่นิยมใช้กันมาในปัจจุบัน ด้วย ความขนาดเล็กและเบา มีโครงสร้างไม่สลับซับซ้อน ดูแลรักษาง่าย นอกจากนี้ ก็มีปั๊มแบบใช้ใบพัดและ ปั๊มแบบใช้ลูกสูบ 
ส่วนในระบบนิวเมติกส์ มักนิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้กับส่วนต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความรวดเร็วในการผลิตชิ้นงาน ด้วยระบบลม และเหมาะกับงานที่อยู่ในพื้นที่ไวต่อการเกิดประกายไฟ ระบบนี้จะมีอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ปั๊มลม (Air Compressor) เพื่อใช้ในการอัดอากาศ ให้ระบบขับเคลื่อนได้ มีมอเตอร์ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์ เป็นตัวต้นกำลังในการขับเคลื่อน มีตัววาล์ว หรือ เพรสเชอร์สวิทช์ เพื่อใช้ควบคุมการเปิดปิดของระบบ

หัวจ่ายอากาศ มีกี่ประเภท

 หัวจ่ายอากาศ มีกี่ประเภท  หัวจ่ายอากาศ เป็นอุปกรณ์ที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ในงานที่ต้องการเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้มีเพียงพอต่อการใช้งาน ...